ส่งงานบทความเรื่อง เทคโนโลยีบีบอัด ไฟล์ข้อมูล

เทคโนโลยีบีบอัดไฟล์ข้อมูล

cut

โปรแกรมบีบอัดไฟล์ มีหลักการ ZIP ไฟล์ ให้มีขนาดเล็กลงได้อย่างไร ?

       เทคโนโลยีบีบอัดไฟล์ข้อมูล หลักการ การบีบอัดข้อมูล (Data Compression) เป็นกระบวนการลดขนาดไฟล์ด้วย การเข้ารหัสไฟล์ (File Encryption) ใหม่อีกครั้ง เพื่อให้จำนวน "บิต" ที่จำเป็นต้องใช้ในการบันทึกข้อมูลมีจำนวนน้อยลงกว่าไฟล์ต้นฉบับ เพื่อทำให้ไฟล์มีขนาดเล็กลงนั้นเอง ซึ่งหลักการเหล่านี้ ก็ถูกนำไปใช้ใน โปรแกรมบีบอัดไฟล์ (File Compression Software) ชื่อดังหลายๆ ตัวอย่าง โปรแกรม WinZip, โปรแกรม WinRAR, โปรแกรม 7-Zip และโปรแกรมอื่นๆ  นั่นเอง

       นับตั้งแต่ที่อินเทอร์เน็ตเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512) ความสัมพันธ์ระหว่าง "ขนาดไฟล์" และ "ความเร็วในการถ่ายโอน" ก็ผูกพันกันมาโดยตลอด ต้องนึกภาพตามด้วยว่าความเร็วของอินเทอร์เน็ตในสมัยนั้นช้ากว่าปัจจุบันมาก ความเร็วของอินเทอร์เน็ตในปี ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) เร็วแค่ 0.0028 Mbps เท่านั้น ความล่าช้าในการรับส่งไฟล์จึงกลายเป็นปัญหาที่นักคณิตศาสตร์ทั่วทั้งโลกหาทางแก้ปัญหาดังกล่าวอยู่หลายปี

       จนกระทั่งวันหนึ่งในปี ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527) อัลกอริทึม Lempel-Ziv-Welch (LZW) ได้ถูกคิดค้นขึ้นมา โดย Abraham Lempel, Jacob Ziv และ Terry Welch ชื่อว่า LZW ก็มาจากชื่อย่อของพวกเขาทั้งสามคนนั้นเอง อัลกอริทึมตัวนี้มีศักยภาพในการทำงานสูง ง่ายต่อการนำไปใช้งาน แม้แต่ รูปภาพตระกูล GIF ที่เราใช้งานกันทุกวันนี้ ก็มีการใช้เทคนิค LZW ในการบีบอัดข้อมูลนะ

ข้อมูลจาก https://tips.thaiware.com/1506.html

การบีบอัดข้อมูลดิจิตอล หนึ่งเรื่องสำคัญสำหรับองค์กรธุรกิจในยุคนี้

การบีบอัดข้อมูลมีความจำเป็นมากสำหรับการทำงานในยุคปัจจุบัน เพราะจะทำให้องค์กรสามารถประหยัดต้นทุนในการจัดซื้ออุปกรณ์ Storage ต่าง ๆ ไปได้มาก

       วันนี้โลกของเรากำลังเข้าสู่ยุค Big Data อย่างแท้จริง เรามีข้อมูลสิ่งต่าง ๆ ทั้งตัวอักษร ตัวเลข รูปภาพ มัลติมีเดีย เกิดขึ้นมากมายในแต่ละวัน องค์กรหนึ่ง ๆ อาจจะต้องเก็บข้อมูลเหล่านี้เป็นจำนวนมากในแต่ละวันที่ผ่านไป และข้อมูลเหล่านี้ก็มีแต่จะมีปริมาณที่มากขึ้น ไฟล์ที่ใหญ่ขึ้นตามมาตรฐานเทคโนโลยีที่พัฒนาไป แม้ว่าองค์กรจะจัดซื้ออุปกรณ์ Storageมาจัดเก็บเพิ่มเติมได้อย่างไม่จำกัดก็จริง แต่นั่นก็หมายถึงต้นทุนทางธุรกิจที่เพิ่มมากขึ้นด้วยนั่นเอง ดังนั้น วิธีที่จะช่วยประหยัดและลดต้นทุนในส่วนนี้ได้ก็คือ จะต้องมีการบีบอัดข้อมูลให้ไฟล์มีขนาดเล็กลง เพื่ออุปกรณ์ Storageจะได้มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลได้มากขึ้น

ความเข้าใจพื้นฐานในเรื่องบีบอัดข้อมูลดิจิตอล

       เรื่องของการบีบอัดข้อมูลนั้น แท้จริงไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด แนวคิดนี้มีมานานแล้วและก็มีใช้กันมาร่วมทศวรรษกันแล้วด้วย หลักการของเรื่องนี้ก็คือ การนำข้อมูลดิจิตอลต่าง ๆ มาเข้ารหัสทางคอมพิวเตอร์ใหม่(Information Encoding)เพื่อให้จำนวน “บิท” หรือขนาดของข้อมูลมีขนาดที่ลดลง ซึ่งข้อมูลที่นำมาผ่านกระบวนการเข้ารหัสแล้ว ก็จะเป็นข้อมูลที่มีการบีบอัดให้มีขนาดเล็กลงไปจากเดิม และคุณสมบัติบางอย่างก็จะเปลี่ยนแปลงไป เช่น ไม่สามารถเปิดเรียกใช้งานโดยโปรแกรมเดิมได้ทันที แต่จะต้องมีโปรแกรมเสริมประเภทถอดรหัสข้อมูล(Information Decoding)เข้ามาช่วยได้การเปิดไฟล์ต่าง ๆ หรือ บางครั้งการบีบอัดข้อมูลให้เล็กลงมาก ๆ ก็อาจส่งผลต่อตัวไฟล์ข้อมูลเองเลยก็มี คือ คุณภาพของข้อมูลอาจเปลี่ยนแปลงไป อย่างข้อมูลที่เป็นรูปภาพ การบีบอัดไฟล์ให้มีขนาดเล็กลงอาจทำให้ความละเอียดของภาพเปลี่ยนแปลงไปได้นั่นเอง อย่างนี้เป็นต้น

 

การบีบอัดข้อมูลดิจิตอลมีด้วยกันกี่ประเภท

       สอดคล้องกับที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นว่าเมื่อมีการบีบอัดข้อมูลให้เล็กลง จะส่งผลบางอย่างกับข้อมูลทันที ฉะนั้น หากจะให้สรุปให้ชัดว่าเรื่องของการบีบอัดเพื่อลดขนาดข้อมูลนั้น มีกี่ประเภทจึงต้องบอกว่า มีอยู่ด้วยกัน 2 แบบคือ
              ·Lossy Compression– การบีบอัดแบบที่ส่งผลต่อคุณภาพของข้อมูล
              ·LosslessCompression- การบีบอัดแบบที่ไม่ส่งผลต่อคุณภาพของข้อมูล
       ซึ่งในปัจจุบัน เราก็ต่างใช้การบีบอัดทั้ง 2 แบบนี้กันอยู่แล้ว แบบแรกส่วนใหญ่ก็จะใช้เพื่อลดขนาดไฟล์ภาพหรือVDOเวลาจะใช้โพสต์หรืออัพโหลดไปในโซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ อีกแบบก็คือ การใช้ ZIP และ RAR สำหรับการลดขนาดไฟล์เอกสารหรือไฟล์ข้อมูลต่าง ๆ เพื่อไม่ให้เปลืองพื้นที่จัดเก็บ รวมไปถึงให้เกิดความสะดวกในการรับส่งข้อมูล ซึ่งหากถามว่าหากต้องการใช้สำหรับการเก็บข้อมูลใน Serverต้องบีบอัดแบบใด ก็ต้องบอกเลย เราจะต้องใช้ทั้งแบบ LossyและLosslessคู่กัน โดยต้องเริ่มจากดูความสำคัญของข้อมูลก่อน หากเป็นข้อมูลที่สำคัญไม่มากนักบีบอัดแบบ Lossyก็ได้ ส่วนถ้าเป็นข้อมูลสำคัญ อย่างฐานข้อมูลด้านการเงินของบริษัทย้อนหลัง ฐานข้อมูลลูกค้าแบบนี้ก็ควรจะเลือกบีบอัดแบบ Losslessจะดีกว่า เพื่อไม่ให้ข้อมูลสำคัญภายในต้องคลาดเคลื่อนไป

       นี่คือความสำคัญของการบีบอัดข้อมูลดิจิตอลสำหรับองค์กร ที่แม้จะดูเป็นเรื่องพื้นฐาน แต่ก็เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องทำอย่างรอบคอบและมีความเข้าใจ ประการแรกคุณภาพของข้อมูลจะไม่สูญเสียไป ประการต่อมาทำให้การจัดเก็บข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่จำเป็นที่จะต้องซื้ออุปกรณ์ Storageไว้มาก ๆ หากลดขนาดของข้อมูลได้เหมาะสม พื้นที่จัดเก็บเท่าเดิมก็สามารถเก็บได้เยอะขึ้นแล้ว แบบนี้ช่วยประหยัดงบองค์กรไปได้เยอะเลยทีเดียว

ข้อมูลจาก www.quickserv.co.th

 

ตัวอย่างโปรแกรมที่ใช้บีบอัด

WinRAR (โหลดโปรแกรม WinRAR โปรแกรมบีบอัดไฟล์ แตกไฟล์ อันดับ 1 ของโลก)            WinZip (โปรแกรม WinZip โปรแกรมบีบอัดไฟล์ ต้นตำรับ บีบอัดไฟล์)            7-Zip (ดาวน์โหลด 7-Zip โปรแกรมบีบอัดไฟล์ คุณภาพสูง ฟรี)              PDF Compressor Free (โปรแกรมบีบไฟล์ PDF ให้เล็กลง)

        WinRAR                          WinZIP                           7-zip                      PDF Compressor free

ข้อมูลจาก software.thaiware.com

 

วิธีการใช้งาน

1. เลือกไฟล์ที่เราต้องการบีบอัด จากนั้นเลือก "Add to archive..."

cut1

 

2.เลือกหัวข้อ Archive format เป็น "ZIP" จากนั้นกด OK

cut2

 

3.เพียงแค่นี้เราก็ได้ไฟล์ ZIP หรือไฟล์มี่เราบีบอัดมาแล้วcut3

 

ประโยชน์ที่ได้รับจากการทำบทความนี้

       เราได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมาของการ บีบอัดไฟล์หรือ Compression file ตั้งแต่ยุคที่มาการเริ่มใช้อินเตอร์เน็ตไปจนถึงปัญหาต่างๆที่เจอ จนมาถึงปัจจุบันเทคโนโลยีได้ก้าวหน้าไปมากและก้าวหน้าต่อไปเรื่อยๆ

       ได้เรียนรู้และเข้าใจวิธีการบีบอัดไฟล์มากขึ้น ประโยชน์ของการบีบอัดไฟล์

You have no rights to post comments